วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นวัตกรรม 4





นวัตกรรมรถยนต์ที่บอกรายละเอียดเส้นทางบนกระจกหน้ารถ


เมื่อการเดินทางของเรามีรายละเอียดต่างๆ ปรากฏขึ้นบนกระจกหน้ารถแบบเลียลไทม์เลย นอกจากที่จะทำให้เราไม่ต้องละสายตาจากถนนแล้ว เรายังเห็นภาพจริงซ้อนทับกับ Holographic เหมือนการขับขี่ยานอวกาศในหนัง Sifi อย่างไรอย่างนั้น มันจะทำให้การขับขี่จะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนุกและตื่นเต้นขนาดไหนกัน 

ซึ่งต้องขอบคุณบริษัท WayRay ที่สร้าง Navion ขึ้นมาที่เฉพาะคนขับเท่านั้นที่จะมองเห็นเจ้าภาพ Holographic ที่ว่านี้และจะทำให้การขับรถตอนกลางคืนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งนั่นทำให้เราคาดการณ์กันว่าในอนาคตอันใกล้นี้การเพิ่มรายละเอียดลงในภาพจริงจะกลายเป็นเรื่องปกติของการขับขี่ไปซะ


วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

คำถามท้ายบท 1



คำถามท้ายบทที่ 1

1.ข้อมูลกับสารสนเทศต่างกันอย่างไร
    ตอบ. ข้อมูล คือสิ่งที่ยังไม่ได้ผ่านการประมวลผล ขอมูลดิบ
              สารสนเทศ คือ้อมูลที่่ผ่านการประมวลผลแล้ว สามารถนำไปใช้ได้เลย

2.เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงอะไร
   ตอบ. การนำความรู้ด้านวิทยาสาสตร์มาใช้กับสารสนเทศ

3.วิวัฒนาการของสารสนเทศมีกี่ยุค อะไรบ้าง
   ตอบ. มี  3 ยุค
            1. ยุคการประมวลผลข้อมูล ( Data Processing)
            2. ยุคของการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วย
            3. ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT )

4.ลักษณะของสารสนเทศที่ดี เป็นอย่างไร
   ตอบ. จะต้องมีลักษณะที่ครอบคลุม มิติทั้ง 4 ได้แก่
            1. มิติด้านเวลา Time
            2. มิติด้านเนื้อหา Content
            3. มิติด้านรูปแบบ Format
            4. มิติด้านกระบวนการ Process

5.โครงสร้างขององค์กร มีกี่ระดับ อะไรบ้าง
    ตอบ. มี 4 ระดับ
             1. ผู้บริหารระดับสูง
             2. ผู้บริหารระดับกลาง
             3. ผู้บริหารระดับล้าง
             4. ผู้ปฏิบัติงาน





วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Internet of Things (IoT)




Internet of Things (IoT)


แนวคิด Internet of Things 
แนวคิด Internet of Things ถูกคิดค้นขึ้นโดย Kevin Ashton ในปี 1999 ซึ่งเริ่มต้นจากโครงการ “Auto-ID Center” ในมหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology จากเทคโนโลยี RFID ย่อมาจากคำว่า Radio Frequency Identification เป็นระบบที่นำเอาคลื่นวิทยุมาใช้ในการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สองชนิด ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบไร้สาย ต่อมาในยุคหลังปี 2000 เทคโนโนโลยีต่างๆ ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เริ่มมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นจำนวนมาก และยังมีการใช้คำว่า Smart เกิดขึ้นเช่น Smart grid, Smart home, Smart device, Smart network เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตได้ ทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอาศัยตัว Sensor ในการสื่อสารถึงกัน โดย Kevin
ได้ให้นิยามไว้ว่า “Internet-like” ต่อมามีคำว่า “Things” เข้ามาแทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

Internet of Things คืออะไร
IoT : Internet of Things (บางทีเรียก IoE : Internet of Everything) หรือ “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถ
สั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การเปิด-ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือทางการเกษตร
อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

IoT มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า M2M ย่อมาจาก Machine to Machine คือเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับเครื่องมือต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน

เทคโนโลยี IoT มีความจำเป็นต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์ประเภท RFID และ Sensors ซึ่งเปรียบเสมือนการเติมสมองให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ขาดไม่คือการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
เพื่อให้อุปกรณ์สามารถรับส่งข้อมูลถึงกันได้ เทคโนโลยี IoT มีประโยชน์ในหลายด้าน แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะหากระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์
และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไม่ดีพอ ก็อาจทำให้มีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาขโมยข้อมูลหรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของเราได้ ดังนั้นการพัฒนา IoT จึงจำเป็นต้องพัฒนามาตรการ
และระบบรักษาความปลอดภัยไอทีควบคู่กันไปด้วย

ในปัจจุบันมีการนำ IoTมาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ มากมาย เว็บไซต์ IoT Analytics ได้ทำการสำรวจและจัดอันดับ โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตยอดนิยมหลักๆ
ได้แก่ สถิติการค้นหาใน Google การแชร์บน Twitter และ จากการที่มีคนพูดถึงบน Linkedin เรามาดูกันว่า 10 อันดับที่มีการประยุกต์ใช้มากสุดมีอะไรกันบ้าง


อันดับที่ 1 Wearables คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งและใช้งานบนส่วนต่างๆ ของร่างกาย                     เพื่อความสะดวกในการใช้งานเพราะสามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่ ปัจจุบันมีการพัฒนาออกมาเป็นรูปแบบ                 ต่างๆ เช่น นาฬิกา สายรัดข้อมือ และแว่นตา

อันดับที่ 2 Smart City หรือเมืองอัจฉริยะ หมายถึง เมืองที่มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้คุณภาพ
                ของประชากรดีขึ้น เช่น การจัดการพลังงานไฟฟ้า ระบบจัดการน้ำ จัดการขยะ เป็นต้น

อันดับที่ 3 Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ หมายถึง การนำเทคโลยีมาควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหรือภายนอก                   บ้านได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เช่น ประตูอัตโนมัติ
                 เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว การเปิดปิดไฟอัตโนมัติ เป็นต้น

อันดับที่ 4 Industrial internet เป็นการใช้ IoT สำหรับอุตสาหกรรมและโรงงานการผลิต

อันดับที่ 5 Smart grid หรือโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาบริหาร                        จัดการควบคุมการผลิต ส่ง และจ่ายพลังงานไฟฟ้า

อันดับที่ 6 Connected car เป็นรถยนต์อัจริยะที่มีการติดตั้งระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย

อันดับที่ 7 Connected health เป็นแนวคิดการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงชุมชนเข้ากับระบบสุขภาพแบบครบวงจร

อันดับที่ 8 Smart farming หรือฟาร์มอัจฉริยะ คือ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานเข้ากับงานด้าน                       เกษตร

อันดับที่ 9 Smart retail เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจห้างร้าน

อันดับที่ 10 Smart Supply Chain คือ การจัดการในส่วนของกระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ผลิตกับผู้ขา



Big Data

Big data analytics คือ กระบวนการวิเคราะห์เซ็ตข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อค้นหารูปแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลเหล่านั้นที่ซ่อนอยู่ข้างใน หาสิ่งเชื่อมโยงที่เชื่อมข้อมูลเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน หาเทรนด์ทางการตลาด หาความต้องการของลูกค้า และข้อมูลอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลนี้สามารถนำไปสู่การทำแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ โอกาสในการสร้างผลกำไร การให้บริการที่ดีมากขึ้นแก่ลูกค้า การปรับปรุงการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ ความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในการแข่งขันทางการตลาด และผลประโยชน์ทางธุรกิจด้านอื่นๆ

เป้าหมายหลักของ Big data analytics หรือ การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า คือ ช่วยในการให้ข้อมูลกับบริษัทเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจโดยการใช้ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (data scientists) นักวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ (predictive modelers) และผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีการส่งผ่านภายในองค์กรหรือบริษัท รวมไปถึงข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบอื่นๆ ที่อาจซุกซ่อนอยู่ในระบบต่างๆของบริษัท ซึ่งแหล่งข้อมูลที่จะถูกนำมาวิเคราะห์นี้หมายรวมถึง เว็บเซิร์ฟเวอร์ล็อคและการคลิกดูข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต คอนเท้นท์บนโซเชี่ยลมีเดียและรายงานกิจกรรมต่างๆบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ข้อความจากอีเมลของลูกค้าและการตอบแบบสอบถาม เสียงบันทึกรายละเอียดทางโทรศัพท์ของลูกค้า และข้อมูลที่มีการบันทึกได้จากเซ็นเซอร์บนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อแบบ Internet of Things


Big Data สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยเครื่องมือที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่น Hadoop YARN MapReduce Hive หรือ NoSQL เป็นต้น โดยจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์เชิงลึก เช่น การวิเคราะห์เพื่อคากการณ์ล่วงหน้า การทำเหมืองข้อมูล (Data mining) การวิเคราะห์ข้อความ และการวิเคราะห์ทางสถิติ นอกจากนี้เครื่องมือประเภท Mainstream BI software และเครื่องมือแบบ data visualization ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่อยู่ในกระบวนการการวิเคราะห์ข้อมูลเช่นกัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อองค์กรในการจัดตั้งส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Big Data ก็คือการขาดทักษะความเข้าใจในการวิเคราะห์ข้อมูลของบุคคลภายใน และค่าใช้จ่ายที่สูงในการจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูล ปริมาณของข้อมูลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ต้องนำมาวิเคราห์ก็อาจะมีหลากหลายประเภทและหลากหลายแหล่งข้อมูลซะจนทำให้การจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างยากลำบาก รวมไปถึงคุณภาพของข้อมูลที่นำไปสู่ประเด็นปัญหาเรื่องความเกี่ยวเนื่องของข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ ยิ่งไปกว่านั้นการเชื่อมต่อระหว่าง Hadoop และระบบจัดเก็บข้อมูล (Data warehouses) ก็ยังเป็นอะไรที่มีความท้าทาย แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการคิดค้นซอฟท์แวร์ที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง Hadoop และระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ รวมไปถึงเครื่องมือเชื่อมต่อเพื่อจัดทำระบบ Big Data อื่นๆ เกิดขึ้นมามากมายก็ตาม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้การทำระบบวิเคราะห์บิ๊กดาต้าจะต้องมีการลงทุนทั้งด้านเงินทุนและทรัพยากรบุคคลมากมายขนาดไหน แต่ในอนาคตที่ระบบออนไลน์จะยิ่งทวีความสำคัญข้อมูลก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นและมากขึ้น ในไม่ช้าระบบธุรกิจก็จะต้องหันหน้าเข้าหาการทำ Big data analytics อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้















วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นวัตกรรมที่ 3



ระบบขับเคลื่อนอันโนมัติของ Tesla



          นอกจากระบบการขับขี่อัตโนมัติที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบแล้ว จากการที่ Tesla ได้ออกซอฟแวร์ใหม่ในปีนี้ ทำให้ระบบการขับขี่อัตโนมัติเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก ความเจ๋งของเจ้ารถคันที่ว่านี้นอกจากการจอดรถด้วยตัวเอง เรียกรถมารับเราได้ถึงที่ หรือแม้แต่การเปลี่ยนเลนส์แบบปลอดภัยแล้ว ยังเพิ่มเรื่องของการเตือนการชนด้านข้างของรถเข้าไปด้วย ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการอัพเดทเวอร์ชั่นของซอฟแวร์ควบคุมด้วยการแจ้งเตือนเหมือนในโทรศัพท์มือถือซะอีกด้วย
           จากความล้ำหน้าของรถยนต์แห่งอนาคตที่เล่าให้ฟังนั้น นอกจากช่วยให้เรากล้าที่จะคิดอะไรใหม่ๆ หรือแม้แต่กล้าที่จะสร้างนวัตกรรมแล้ว เรายังมองเผื่ออนาคตในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ได้ด้วย เช่น ถ้าจะเริ่มจากการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติซึ่งก็คือ รถยนต์จะควบคุมตัวเองในช่วงที่รถติด หรือช่วยเราในขณะจอดรถแล้วล่ะก็เรายังคงต้องประคองพวงมาลัยไว้ก่อน เพราะงั้นการทำประกันรถยนต์ก็ต้องคลอบคลุมในช่วงที่ว่านี้ด้วย และเมื่อเราเข้าสู่การขับขี่แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบการประกันรถก็น่าจะมีเบี้ยที่ถูกลงมากเพราะอัตราการเกิดอุบัติเหตุก็น่าจะลดลงด้วยเช่นกัน

วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นวัตกรรม 1





Garmin’s reality display

         เเว่นอัจฉริยะที่ออกเเบบมาเพื่อนักปั่น Varia Vision in-sight display เรียกสั้นๆ ว่า Varia Vision เป็นอุปกรณ์ที่ออกเเบบมาเพื่อตอบสนองความปลอดภัย (Safety) ให้กับนักปั่น เป็นหลัก เเต่ในขณะเดียวกันก็สามารถป้อนข้อมูลสถิติการปั่นของคุณเเบบ real time ได้เช่นกัน
         การรักษาวิสัยทัศน์โดยการโฟกัสมองตรงไปข้างหน้า เป็นหนึ่งวิธีการรักษาความปลอดภัยขณะปั่นจักรยาน เเต่การเหลียวไปมองข้างหลังเป็นครั้งคร่าว หรือการก้มมองเจ้า Bike computer ทำให้เราละสายตาจากด้านหน้าไปชั่วขณะ สร้างสภาพเเวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ยิ่งใช้เวลาในการก้มมองหรือเหลียวหลังมองนานเท่าไหร อันตรายยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
         เพื่อให้นักปั่นสามารถรักษวิสัยทัศน์ มองตรงไปข้างหน้าได้ตลอดเวลา Garmin จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ Varia Vision ออกมา ลักษณะรูปลักษณ์ดูๆ ไปทำให้นึกถึง Google Glass ต่างกันที่ เจ้า Varia Vision เป็นอุปกรณ์ที่สามารถพกพา ถอดใส่กับเเว่นตาอื่นๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเเว่นตาใดๆ ไปตลอด

นวัตกรรม 2

       


Tango phone

บริษัทผลิตฮาร์ดแวร์เลอโนโว ผลิตโทรศัพท์โดยใช้ซอฟแวร์จากกูเกิ้ล ตัวโปรเจ็คยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่ขาดว่าราคาเปิดตัวที่ต่ำกว่า 15,000 บาท และมีดีไซน์ให้เลือกถึง 5 แบบ จะทำให้วงการสมาร์ทโฟนต้องหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน




นับเป็นเวลาหลายปีในการทำ แทงโกซึ่งเป็นเทคโนโลยีการตรวจวัดเชิงลึกของ Google พร้อมที่จะเปิดตัวสู่ผู้บริโภคแล้ว นั่นเป็นเพราะวันนี้เป็นช่วงที่โทรศัพท์ Tango ตัวแรกของ Lenovo Phab2 Pro เปิดขายในราคา 499 เหรียญ เมื่อต้องการติดตามการเปิดตัว Phab2 Pro Google จะประกาศแอพพลิเคชัน Tango ใหม่กว่า 35 รายการซึ่งทั้งหมดจะพร้อมใช้งานใน Play สโตร์วันนี้ นักพัฒนาแอปบางส่วนและเจาะลึกในอนาคตของ Tango และนั่นรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Tango กับ Daydream อีกโครงการหนึ่งที่รู้จักกันดีของ Google

Tango เริ่มต้นชีวิตในรูปแบบโครงการภายในแผนกเทคโนโลยีและโครงการขั้นสูงของ Google หรือ ATAP ความคิดคือการรวมอาร์เรย์ของเซ็นเซอร์และกล้องเข้ากับอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อให้สามารถหาตำแหน่งเทียบกับสภาพแวดล้อมได้ เราได้เห็นแล้วว่าการแม็ป 3D ของแทงโก้สามารถนำมาใช้เพื่อให้คำแนะนำในพิพิธภัณฑ์ช่วยในโครงการปรับปรุงบ้านและสร้างโลกการ์ตูนได้อย่างไร