วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

สรุปงาน


สรุปการนำเสนอ

6 W และ 1H เทคนิค 7 ประการสำหรับการวิเคราะห์ลูกค้า
    6W1H คือ เครื่องมือสำหรับกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการตลาด ประกอบไปด้วย
1. Who - ใครคือลูกค้าของคุณ
2. What - อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
3. Where - ลูกค้าคุณอยู่ที่ไหน?
4. When - สินค้าของคุณจะถูกใช้งานเมื่อไหร่
5. Why -ทำไมเขาต้องซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ?
6. Whom -ใครบ้างที่มีอิทธิพลในการซื้อ? สินค้าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง?

7. How -เขาจะใช้สินค้าหรือบริการของคุณอย่างไรA
        เทคนิค 7 ประการสำหรับการวิเคราะห์ลูกค้าก็จะสามารถทำให้คุณ ๆ ขายสินค้าได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้า SME หรือ กลุ่มสินค้าธุรกิจใหญ่ ๆ ก็จะมีวิธีการหรือเทคนิคในการวิเคราะห์ลูกค้าไม่ต่างกันเลยเพียงแต่ต้องมองให้ออกว่า 6W และ 1H มีอะไรกันบ้างเท่านั้นเอง

กลยุทธ์การตลาด 8P
กลยุทธ์การตลาด 8P  ที่ได้กล่าวมานี้เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่
นักธุรกิจส่วนใหญ่ นำไปใช้เป็นบรรทัดฐานในการทำการตลาด โดยอาจแตกต่างตรงที่บางบริษัทประสบความสำเร็จ แต่บางบริษัทกลับล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะบริษัทที่ล้มเหลวไม่อาจสร้างองค์ประกอบทางกลยุทธ์ 8P ได้ครบตามวงจร ดังนั้นผู้ประกอบการที่สนใจจะใช้กลยุทธ์ 8P นี้ทำการตลาดให้ได้ผล ต้องเอาใจใส่ทุกรายละเอียดของกลยุทธ์แต่ละข้อ เพื่อสร้างสรรค์ตัว P ทั้งแปดให้เกิดขึ้นมาให้ได้


การสร้างพันธมิตร
- เพื่อขยายตลาดและเพิ่มฐานลูกค้า 
- เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
 - เพื่อสร้างน้ำหนักในการต่อรอง
- เพื่อตามคู่แข่งให้ทัน
- เลือกสรรเพื่อนร่วมธุรกิจ ผู้ที่คิดจะรวมกลุ่มพันธมิตรจำเป็นต้องศึกษากันและกัน
 - วิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมในการรวมกลุ่มธุรกิจ
 - รับฟังความคิดเห็นและความเห็นชอบจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- กำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์แผนธุรกิจให้เหมาะสมและเสมอภาคระหว่างพันธมิตรด้วยกันเอง
- สัญญาที่เป็นผลผูกพันทางกฎหมายเพื่อให้พันธมิตรปฎิบัติตาม
         พันธมิตรทางธุรกิจ (Business Alliance) 
ข้อตกลงระหว่างธุรกิจ โดยปกติจะทำเพื่อการลดต้นทุน และการปรับปรุงบริการให้ดีขึ้นสำหรับลูกค้า ความร่วมมือมักจะอยู่ในรูปของข้อตกลงแบบเดี่ยว (Single agreement) ที่มีการแบ่งปันทั้งโอกาสและความเสี่ยงเท่าๆ กันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งที่เหมือนและแตกต่างกันไป
         พันธมิตรทางธุรกิจแบงได้ 3 ประเภท
- พันธมิตรแบบเซ็นสัญญา (Contractual Agreement)
- พันธมิตรแบบเข้ามาถือหุ้นระหว่างกัน (Minority Equity Agreement)
- พันธมิตรแบบธุรกิจร่วมทุน (Joint Venture)

1. พันธมิตร (Alliances) เป็นความร่วมมือในรูปแบบของพันธมิตรระหว่าง 2 บริษัท โดยทั้งสอง
บริษัทยังคงเป็นอิสระต่อกัน โดยความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทขึ้นอยู่กับขอบเขตความร่วมมือในการ
ดำเนินธุรกิจร่วมกัน

2. การลงทุนร่วมกัน (Joint Ventures) รูปแบบของความร่วมมือประเภทนี้จะมีการตั้งองค์กา
ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของหุ้นส่วน

3. เครือข่าย (Networks) เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ในการดำเนินธุรกิจที่มีความร่วมมือหลาย
บริษัทในเรื่องของเทคโนโลยีในการดำเนินงานและระบบสารสนเทศ โดยรูปแบบความสัมพันธ์ดังกล่าว
ทำให้เกิดการแบ่งกันการใช้ทรัพยากรในการดำเนินงานร่วมกัน


การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร

                     คือ การกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภค ไม่ใช่สร้างแค่การรับรู้ การจดจำหรือการยอมรับเท่านั้นดังนั้น IMC จึงเป็นกระบวนการสื่อสารเพื่อจูงใจในระยะยาวและต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องมือหลายรูปแบบ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ตลาดตรง การส่งเสริมการขาย การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า การตลาดเน้นกิจกรรม Call Center และอีเมล์ ฯลฯ เพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่ต้องการโดยวางแผนภายใต้ แนวความคิดเดียว แต่ใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดที่หลากหลายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งเป้าหมายไว้

Outsource
                   คือการที่องค์กรมอบหมายงานบางส่วนของตนให้กับบุคคลหรือองค์กรภายนอกมาดำเนินการแทนโดยผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้กำหนดและควบคุมกำกับทุกส่วนตั้งแต่นโยบายไปจนถึงการปฏิบัติงานในทุกๆขั้นตอนของผู้รับจ้าง การไปทำสัญญาต่อสำหรับกระบวนการทำงาน เช่น การออกสินค้า หรือการผลิตสินค้า เป็นต้น กับกิจการอื่น ซึ่งการตัดสินใจที่จะมอบหมายภารกิจขององค์กรให้ผู้อื่นดำเนินการแทนจะเกิด ขึ้น เมื่อองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ไม่พร้อมที่จะใช้ทรัพยากรภายในที่มีอยู่ทำงานนั้นด้วยตนเอง การจ้างให้คนอื่นทำงานแทนมักจะมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
1.เพื่อประหยัดต้นทุน
2. ช่วยให้องค์กรสามารถเน้นกิจกรรมไปยังธุรกิจหลัก
 3. สร้างองค์ความรู้ให้แก่องค์กรมากขึ้น
4. การปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด
5. ได้รับบริการจากผู้ที่มีความชำนาญในการดำเนินงาน
6. ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ
7. เป็นตัวกระตุ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง

8. สามารถใช้ประโยชน์จากเวลาที่ต่างกัน

การประชาสัมพันธ์เชิงการตลาด
(MARKETING PUBLIC RELATIONS : MPR)

        การประชาสัมพันธ์เชิงการตลาด หรือเอ็มพีอาร์ หมายถึง ขั้นตอนการวางแผนการปฏิบัติดำเนินงานและการประเมินผลในกระบวนการกระตุ้นให้เกิดการซื้อและความพึงพอใจโดยอาศัยการให้ข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือ ผ่านรูปแบบการนำเสนอเกี่ยวกับสินค้าและองค์กร เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและต้องการซื้อสินค้าในที่สุด นักกลยุทธ์ไอเอ็มซีบางท่านก็เรียกเอ็มพีอาร์ว่า การเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับตราสินค้า (Brand Publicity) ซึ่งจะเห็นได้ว่าทิศทางของการทำประชาสัมพันธ์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะเป็นการทำประชาสัมพันธ์องค์กร (Corporate Public Relations : CPR) ที่เน้นความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานกับกลุ่มเป้าหมายแต่ในปัจจุบันนักกลยุทธ์ไอเอ็มซีหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นกับการประชาสัมพันธ์เชิงการตลาด (Marketing Public Relations : MPR) ซึ่งเป็นการนำความสัมพันธ์ระหว่างการตลาดกับการประชาสัมพันธ์มาผสมผสานกัน







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น